วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

Day 8 Fear by nutty

สืบเนื่องจากบทความของ Mildshow ที่เขียนเปิดเผยตัวเองให้ฟังนั้น มันก็สะท้อนกลับมาถึงตัวเราด้วย เนื่องจากสิ่งที่เขียนมาทั้งหมดนั้นตรงกับตัวเราซะส่วนมาก เวลามองดูเพื่อนๆที่เริ่มประสบความสำเร็จแล้วเราก็อยากจะเป็นเหมือนเขาบ้าง อยากทำเหมือนเขา แต่พอจะทำทีไรกลับมีคำถามเดิมๆซ้ำๆย้อนมาเสมอๆ ..
                                                               "มันจะสำเร็จเหรอ?" 
                                                            "เราจะทำได้จริงเหรอ?"

บางครั้งพอลงมือทำ ก็ทำได้แค่ช่วงหนึ่งเท่านั้น ผลลัพธ์ยังไม่ทันปรากฏก็เลิกซะแล้ว ยังไม่ได้พยายามจนสุดก็เลิกซะแล้ว 

คือจริงๆเรามีไอเดียที่อยากจะทำอะไรหลายอย่างมากกกกกตั้งแต่หลายปีก่อน แต่ไม่ได้ทำซักที จนคนอื่นเค้าแซงกันไปมากโข คำถามคือ อะไรฉุดเราอยู่? อะไรดึงเราอยู่? หลักๆก็คงจะเป็น ความกลัวที่จะสูญเสีย ความกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง ความกลัวที่จะสูญเสียคือ กลัวขาดทุน กลัวทำไม่ได้ กลัวขายไม่ออก กลัวนั่นกลัวนี่ ความกลัวที่จะเปลี่ยนแปลง คือ กลัวที่จะทำอะไรใหม่ๆโดยไม่มีผลลัพธ์รองรับที่ชัดเจนว่ามันจะสำเร็จไหม กลัวจนเหมือนเป็น paranoid กลัวได้ แต่ควรกลัวสิ่งที่ควรกลัว กลัวพร่ำเพรื่อก็กลายเป็นดาบกลับมาทำร้ายตัวเอง เพราะความกลัวนี่แหละคือสิ่งที่ยึดเราอยู่กับที่ ไม่ก้าวไปข้างหน้า หรืออาจถอยหลังเลยก็เป็นได้ การย่ำอยู่กับที่ในชีวิตคือสิ่งที่แย่ที่สุด เรารู้สึกนะว่า เราเสียค่าเสียโอกาสไปมากมายเพราะความกลัวนี่แหละ ค่าเสียโอกาสที่เสียไปคงเสียมากกว่าที่ขาดทุนถ้าหากทำตั้งแต่แรก ไม่งั้นตอนนี้คงสบายไปแล้ว หรือถ้าหากมันล้มเราก็ยังมีเวลาทำใหม่ได้นี่หน่า มันต้องสำเร็จซักอย่างล่ะ เอาจริงก็รู้สึกแย่นะ ย่ำอยู่กับที่ระหว่างที่คนอื่นกำลังเดินหน้า ก็รู้สึกเหมือนเราก้าวถอยหลังไปโดยอัตโนมัติ เวลาที่มีก็ถอยหลังลงทุกวันๆ ช่วงชีวิตในวัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่มันต่างกันก็ตรงนี้ ตอนเด็กแค่กินอิ่ม นอนหลับ ได้หายใจ ได้เล่นก็มีความสุขแล้ว ทุกวันนี้ได้กินอิ่ม นอนหลับ ได้หายใจ ได้เล่น แต่ยังอยู่ที่เดิม ไม่มีความก้าวหน้าในชีวิต มันรู้สึกเหมือนมีอะไรขาดหายไป  รู้สึกโง่เง่าเต่าตุ่น ไม่เอาไหนเลย เพราะฉะนั้นคงลองเปลี่ยนมุมมอง เพิ่มความกล้าแบบมีเหตุผลและความเชื่อเข้าไปอย่างละนิดอย่างละหน่อย ปรุงออกมาให้กลมกล่อม ลองทำอะไรใหม่ๆดูสักหลายๆครั้ง มันไม่สายเกินไปหรอก

ถ้ากลัวมากนะ ก็กลัวความจน กลัวไม่มีกินให้มากกว่ากลัวอย่างอื่น ก็เป็นหนึ่งในแรงผลักดัน(แบบจำเป็นไงเพราะกลัวจน)ในการทำงานให้หนักขึ้น กล้ามากขึ้นก็เท่านั้น


                           

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น