เมื่อวันก่อนผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับซามูไรชื่อ มิยาโมโตะ มูซาชิ ....อ่านแล้วก็ทำให้นึกถึงการเทรดขึ้นมาโดยทันที เพราะการเทรดนั้นต้องประกอบไปด้วย "การฝึกฝนมาอย่างดีทั้งร่างกายและจิตใจ" เปรียบเหมือนเพลงดาบของมูซาชิที่เอาชนะสู้ต่อสู้เก่งๆมาได้มากมาย....ไหนจะวิชาดาบคู่ที่ต้องใช้ความสมดุลของสมองทั้งสองข้าง ทั้งซีกซ้ายและซีกขวา (Logic and intuition) ...ซึ่งในจุดนี้ก็ไม่ต่างจากการเทรด.
----ดาบของ มูซาชิ นั้นก็เปรียบเสมือนระบบเทรดของเรา....เพลงดาบนั้นก็เปรียบดังรูปแบบการเทรด....การฝึกฝนร่างกายและจิตใจนั้นก็เหมือน Mental + Intuitive ----
*** การที่มูซาชิมีความเก่งกาจได้ขนาดนี้ ผมมองว่าเพราะมีความพยายามที่ดีไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค์ และหารูปแบบของตัวเองจนเจอทั้งเรื่องวิชาดาบรวมไปถึงเรื่องของจิตใจ ****
ลองอ่านกันดูครับหวังว่าจะเอาไปประยุกต์กับการเทรดได้ !
มูซาชิ ซามูไรดาบคู่ ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น เป็นบุคคลที่มีตัวตนจริงๆ มีชีวิตอยู่ในราว ค.ศ. 1584-1645 จากประวัติการต่อสู้กว่า 60 ครั้ง ไม่เคยแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียวนั่นไม่ใช่โชคช่วย แต่เป็นเพราะฝึกฝนมาอย่างดีทั้งร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะการฝึกจิตเพื่อเอาชนะศัตรูภายในตนเอง...จนกระทั่ง ”มีความสามารถที่จะรบชนะ” เป็นผู้แต่งหนังสือเกี่ยวกับกลยุทธ์การต่อสู้ชื่อ คัมภีร์ห้าห่วง (The Book of Five Rings) ซึ่งทั่วโลกยอมรับว่าเป็นผลงานอัจฉริยะ มูซาชิ มิได้มีแค่ชัยชนะในสมรภูมิเท่านั้น
หากเป็นทั้งการแสวงหาทางด้านจิตวิญญาณ-ความหมายแห่งชีวิต
และความเป็นเลิศในเชิงดาบไปพร้อมๆกัน....เขาเป็นลูกของซามูไรบ้านนอกขาดแม่ และในวัยเด็กทำท่าว่าจะเป็นคนที่เอาดีไม่ได้
อย่างไรก็ตามลักษณะเด่นของมูซาชิคือเป็นคนบึกบึนไม่ยอมแพ้ใครซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญอย่างหนึ่งของนักรบ...สำหรับการเป็นนักรบนั้นแตกต่างจากนักฆ่าโดยสิ้นเชิง นักรบย่อมเห็นคุณค่าของชีวิตไม่ว่าของตนเอง หรือของผู้อื่น ไม่โอ้อวดเสี่ยงภัยอย่างไร้สาระ
พร้อมเสียสละชีวิตเพื่อบรรลุจุดมุ่งหมายที่เหมาะสมจริงๆ...มูซาชิเป็นมนุษย์ที่มีความสมดุลของสมองทั้งสองข้าง ทั้งซีกซ้ายและซีกขวา ใช้ดาบได้อย่างคล่องแคล่วทั้งสองมือ ดาบคู่ของเขานั้นยังสั้นข้าง-ยาวข้าง ด้วย
การชี้แนะของพระเซนรูปหนึ่งที่ชื่อ ทากุอัน
มูซาชิได้เลิกนิสัยมุทะลุดุดันชอบเอาชนะแบบบ้าเลือด
แล้วหันมาแสวงหาหนทางการเป็นนักสู้ที่แท้จริง การใช้กำลังกับภูมิปัญญามิใช่สิ่งแยกออกจากกันได้
มูซาชิอ่านทุกอย่างตั้งแต่ประวัติศาสตร์ปรัชญามาจนถึงตำราพิชัยสงคราม
ขณะเดียวกันก็ได้ฝึกควบคุมตัวเองให้รู้จักสงบนิ่งเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์อันเลวร้าย
มูซาชิได้ค้นพบว่าหนทางแห่งนักรบนั้นแยกไม่ออกจากหนทางแห่งความเป็นคน...ความเป็นเลิศในเพลงดาบคือสิ่งเดียวกับความงาม ความสงัดสุข และความดี พูดอีกนัยหนึ่งคือ มูซาชิจะไม่สามารถบรรลุความเป็นเลิศในฝีมือได้ถ้าหากเขาไม่แสวงหาทางหลุดพ้นในระดับจิตวิญญาณไปพร้อมๆกัน...ท่ามกลางการฝึกฝีมือดาบ มูซาชิได้เรียนรู้การวาดภาพ การแกะสลัก การเขียนบทกวี ตลอดจนสิ่งประณีตละเอียดอ่อนอีกหลายๆอย่าง...ในที่สุดเขาก็ค้นพบว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งเดียวกัน " มันคือศักยภาพของความเป็นคน " จากเด็กหนุ่มที่บ้าเลือดไร้ทิศทาง มูซาชิค่อย ๆ กลายเป็นหนุ่มใหญ่ที่อ่อนน้อมถ่อมตน ละเอียดอ่อนทั้งกับผู้อื่นและตัวเอง เขาเติบโตพ้นเรื่องของศักดิ์ศรีหน้าตาที่เป็นเพียงเปลือกนอก ตลอดจนลาภ ยศ สรรเสริญทั้งปวง
มูซาชิได้ค้นพบว่าหนทางแห่งนักรบนั้นแยกไม่ออกจากหนทางแห่งความเป็นคน...ความเป็นเลิศในเพลงดาบคือสิ่งเดียวกับความงาม ความสงัดสุข และความดี พูดอีกนัยหนึ่งคือ มูซาชิจะไม่สามารถบรรลุความเป็นเลิศในฝีมือได้ถ้าหากเขาไม่แสวงหาทางหลุดพ้นในระดับจิตวิญญาณไปพร้อมๆกัน...ท่ามกลางการฝึกฝีมือดาบ มูซาชิได้เรียนรู้การวาดภาพ การแกะสลัก การเขียนบทกวี ตลอดจนสิ่งประณีตละเอียดอ่อนอีกหลายๆอย่าง...ในที่สุดเขาก็ค้นพบว่าทั้งหมดนี้เป็นสิ่งเดียวกัน " มันคือศักยภาพของความเป็นคน " จากเด็กหนุ่มที่บ้าเลือดไร้ทิศทาง มูซาชิค่อย ๆ กลายเป็นหนุ่มใหญ่ที่อ่อนน้อมถ่อมตน ละเอียดอ่อนทั้งกับผู้อื่นและตัวเอง เขาเติบโตพ้นเรื่องของศักดิ์ศรีหน้าตาที่เป็นเพียงเปลือกนอก ตลอดจนลาภ ยศ สรรเสริญทั้งปวง
อันนี้ทำให้มูซาชิสามารถหลีกเลี่ยงสมรภูมิที่ไม่จำ เป็นได้โดยไม่แยแสกับเสียงติฉินนินทา ทว่ายามใดที่ต้องรบ เขาก็สามารถรบได้ด้วยความสงบนิ่งดุจภูผา ศัตรูคนแล้วคนเล่าร่วงล้มด้วยเพลงดาบไร้สำนักของเขา...กระทั่งชื่อมูซาชิกลายเป็นที่รู้จักกันทั่วไป
แม้ในยามที่มีชื่อเสียงแล้วก็ตาม มิยาโมโตะ มูซาชิก็ยังใช้ชีวิตเหมือนนักพรตผู้ถือดาบ กินอยู่สมถะ นุ่งเจียมห่มเจียม ครองตัวเป็นนักดาบไร้สังกัดปราศจากฐานะตำแหน่งใด ๆ ในวงจรอำนาจซึ่งกำลังแก่งแย่งชิงดีกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ในฉากสุดท้ายของนิยาย มูซาชิต้องดวลดาบกับซาซากิ โคยิโร่ ซึ่งเป็นซามูไรที่มีชื่อเสียงมากที่สุดอีกคนหนึ่ง และมีฐานะเป็นทั้งเจ้าสำนักและอัศวินชั้นสูง ทั้งสองจะต้องประลองฝีมือกันโดยเอาชีวิตเป็นเดิมพันต่อหน้าบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ซึ่งมานั่งดูเป็นสักขีพยาน....สถานที่นัดพบครั้งนั้นอยู่บนเกาะเล็ก ๆ ห่างจากฝั่งประมาณ 2 ไมล์ขณะที่ผู้คนจากทั่วสารทิศได้หลั่งไหลกันมาดู เหตุการณ์ด้วยความตื่นเต้น มูซาชิกลับใช้เวลาก่อนดวลนั่งวาดรูป จากนั้นก็ขึ้นเรือลำเล็กๆ ไปสู่จุดนัดหมาย และใช้เวลาบนเรือถากพายหักด้ามหนึ่งเพื่อใช้เป็นอาวุธ ปะทะกันได้ไม่ถึงอึดใจ เขาก็ใช้ดาบไม้นั้นสังหารคู่ต่อสู้ลงไป และในขณะที่ทุกคนยังไม่หายตื่นเต้นกับฉากดวลระหว่างนักดาบชั้นครู มูซาชิก็โดดกลับลงเรืออย่างเงียบๆ ไม่มีท่าทีแยแสกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งปวง
THE END.
ปล.ส่วนตัวนั้นผมมองว่าวิถีของซามูไรนั้นก็เหมือนกับวิถีเทรดเดอร์ของตัวผม....ในบทความต่อไปผมจะมาพูดถึงวิถีเทรดเดอร์ของตัวผมแล้วคุณจะรู้ว่ามันคล้ายกับวิถีซามูไรตรงไหน :)
Credit http://www.oknation.net/blog/jommand26/2010/03/28/entry-1#.U1hyqikSr8k.facebook
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น