วันนี้มีเรื่องมาเล่าสู่กันฟังให้เก็บไปคิดกัน ปกติทุกคนคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า "การไม่มีหนี้ คือลาภอันประเสริฐ" เป็นประโยคที่ถูกสั่งสอนกันมาเรื่อยๆ เราก็เชื่อนะ เพียงแต่ว่ายังไม่เคยเผชิญกับตัวเองและครอบครัวเลยยังไม่ได้หยั่งถึงขนาดนั้น แต่แค่จินตนาการถึงก็สยองไม่ใช่เล่น แต่สิ่งที่เราได้พบเจอคือเรื่องของผู้ใหญ่ท่านหนึ่งที่มีพระคุณกับเราที่ต้องตกระกำลำบากเพราะ"หนี้"
วันก่อนได้กลับไปเยี่ยมคุณครูที่รร เก่ามา ซึ่งการกลับไปเยี่ยมครั้งนี้มีจุดประสงค์ เพื่อนๆต่างก็พูดคุยเรื่องราวของคุณครูท่านนี้กันอย่างกว้างขวาง ข่าวที่พึ่งได้รับแพร่กระจายกันอย่างรวดเร็วในเวลาเพียงแค่ไม่กี่วันด้วยพลังของปากต่อปาก ข้อมูลที่ได้รับจึงผิดเพี้ยนไปไม่มากก็น้อย ข้อมูลที่เราได้รับมา คือหอที่เราเคยอยู่กับเพื่อนๆมา3ปี สถานที่ที่มีทั้งสุขและทุกข์ของเพื่อนๆรุ่นเรานั้นกำลังจะถูกปิดตัวลง เนื่องจากเจ้าของหอติดหนี้นอกระบบ ซึ่งมีวันหนึ่งเจ้าหนี้ถึงกับทำโบรชัวร์ประจานและโปรยไปรอบๆรั้วโรงเรียน อีกทั้งลูกของเจ้าหนี้ยังเอารูปขึ้นig เพื่อประจานไปอีกทางหนึ่งด้วย อย่างที่รู้กันดีถึงความร้ายกาจของหนี้นอกระบบหากไม่มีเงินมาคืน ไม่มีใครรับประกันได้ว่าเจ้าหนี้จะลงมือทำอะไรบ้าง ทางโรงเรียนจึงสั่งปิดหอซะ เพื่อความปลอดภัยของเด็ก แต่จริงๆไม่รู้ว่ามีจุดประสงค์อื่นอะไรแอบแฝงอีก ซึ่งหากปิดหอไปเท่ากับตัดรายได้ของเขาทิ้ง เพราะคุณครูเจ้าของหอนั้นไม่ได้ทำกิจการอะไรอื่นอีก มีแค่รายได้หลักๆจากกาุรทำหอและเงินเดือนครูเท่านั้น ซึ่งคนที่สั่งปิดหอพึ่งย้ายมาใหม่ จึงอยากที่จะปิดหอแล้วย้ายเด็กเข้าหอในโรงเรียนแทน คุณครูเจ้าของหอจึงตัดสินใจลาออกจากการเป็นครูที่ท่านเป็นมามากกว่า25ปี ตอนนี้เท่ากับว่ารายได้เหลือศูนย์ ต้องขายของที่มีอยู่เพื่อเปลี่ยนเป็นเงินเอามาใช้หนี้และประทังชีวิตแทน ซึ่งคุณครูยังมีภาระให้เลี้ยงดูทั้งลูก2คน และพ่อแม่สามีที่ป่วย ทั้งครูและสามีต่างก็เครียดกันจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน ห่วงทั้งลูกและพ่อแม่ ซึ่งตัวเลขที่เป็นหนี้อยู่นั้นไม่ใช่น้อยๆ ตัวเลขสูงถึงประมาณ15-17ล้านเนี้ยแหละ ไม่แน่ใจ แต่ก็ถือว่าเป็นตัวเลขที่สูงมากสำหรับคนกินเงินเดือนธรรมดา หลายๆคนก็อยากจะทราบว่าทำไมหนี้ถึงสูงขนาดนั้น เอาเงินไปทำอะไรหมด ซึ่งความจริงก็ไม่มีใครรู้ได้นอกจากคนในครอบครัวของคุณครูเอง ถ้าหากกู้เงินมาเพื่อ consumption สำหรับช่วงปัจจุบัน แน่นอนล่ะ ที่คนรับกรรมใช้หนี้ต่อก็คือลูกๆ เพราะเงินที่กู้มาใช้ในปัจจุบันเดี๋ยวก็หมด ซึ่งไม่ได้ทำให้ purchasing power ในอนาคตสูงขึ้นเลย กลับยิ่งทำให้ต่ำลงอีกต่างหาก ทั้งต้องจ่ายเงินต้นแล้วไหนจะดอกเบี้ยอีก แต่ถ้าหากกู้เงินมาเพื่อการลงทุนทำธุรกิจ หากผลลัพธ์ออกมาดีก็จะยิ่งส่งเสริมให้ purchasing power ในอนาคตสูงขึ้นมาก เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าความจริงเป็นอย่างไรแค่นั้น ในตอนนี้พวกเราทำได้แค่ให้กำลังใจคุณครูและครอบครัว เราได้ยินมาว่าคุณครูถึงกับนอนไม่หลับและนอนร้องไห้ทุกคืน ยิ่งไปเห็นหน้าของคุณครูและสามี ก็รู้สึกได้ถึงความเครียดอย่างหนักจากข้างใน ถึงจะพยายามยิ้มแต่ในใจเค้าเหมือนร้องไห้ตลอดเวลา เห็นหน้าครูแล้วเหมือนเห็นดอกไม้ที่เคยบานอยู่ กลับกลายเป็นเหี่ยวเฉา( มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ หน้านี่ดำเมี่ยม บ่งบอกได้ถึงความเครียดเลเวล99) ไม่เจอกับตัว คงไม่รู้สึก วันที่ทางออกไม่มีก็คงต้องออกทางเข้า ท่านบอกว่าตอนนี้ก็คิดถึงลูกอย่างเดียว พยายามเข้มแข็งเพื่อลูก ทางออกที่ดีที่สุดตอนนี้คือขายหอ ขายของเปลี่ยนเป็นเงินเพื่อนำไปใช้หนี้และเริ่มจากศูนย์ใหม่หมดเลย ก็ได้แต่ปลอบว่า ตอนนี้ชีวิตอยู่จุดที่ต่ำสุด ต่อไปมันคงมีแต่ขึ้นแล้วหล่ะ นี่ล่ะนะ พิษสงของหนี้
ยังไงก็ตาม หนี้ก็ยังมีจุดที่ดีของมันอยู่บ้าง ขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละคน หนี้สามารถทำลายชีวิตก็ได้ สามารถทำให้ชีวิตเราเติบโต ร่ำรวยขึ้นก็ได้ คนที่ใช้หนี้เป็น หนี้ก็จะกลายเป็น good debt ที่ทำให้ธุรกิจก้าวหน้ายิ่งขึ้น อย่างเช่น คุณตัน ที่ตอนแรกเขากู้เงินจากกรุงศรีมาลงทุนจนเติบใหญ่เท่านี้ เพราะเขามีการวางแผนการเงินและธุรกิจที่ดี เขามองเห็นโอกาสและศักยภาพ เพราะฉะนั้นหนี้จึงเป็นได้ทั้งเครื่องมือที่สร้างสรรค์แต่ก็มีพลังทำลายล้างอยู่ภายในตัวมันเองได้เช่นกัน
ปล. "พรุ่งนี้เราจะเริ่มทำงานแล้ว!" ท้อปบอกว่าให้พูดเพื่อเป็นกำลังใจและแรงผลักดันให้ตัวเอง
สวดยอดเลยล้วกเพี้ย
ตอบลบBy Boom