วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

Day 5 The best Idea by Kanthorn


วันนี้ผมจะมาพูดถึงต้นกำเนิดของความคิดดีๆครับ......คือตามประสบการณ์ตรงผมแล้วไอเดียดีๆนั้นมักจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ เพื่อนๆเคยสังเกตุกันมั้ยครับ? บางทีอยากจะคิดให้ออกอยากจะคิดให้ตายก็คิดไม่ออก...นอนหลับตื่นมาแล้วนอนต่อก็คิดไม่ออก ที่เป็นแบบนั้นก็เพราะว่าคุณตีกรอบให้ความคิดของคุณเองเลยทำไม่ให้เกิดความคิดที่สร้างสรรค์ครับ.

วิธีที่จะทำให้เกิดไอเดียดีๆนั้นมีหลายวิธี
1.ออกเดินทางท่องเทียว ไปพบสิ่งแปลกใหม่
2.เปลี่ยนบรรยากาศรอบตัวให้สมองทำงานบ้าง
3.ออกกำลังกาย
4.เดินเล่นสูดอากาศสดชื่น
5.พูดคุยกับผู้คนอื่นๆในเรื่องที่เราอยากรู้
6.ลองไปในที่ที่ไม่คุ้นเคยสมองจะเกิดการเชื่อมเส้นรอยหยักใหม่ๆเข้าด้วยกัน
7.ทำสมาธิอยู่คนเดียว ในบรรกาศที่ผ่อนคลาย
8.อ่านหนังสือ
9.มองโลกในแง่บวก บางครั้งสิ่งรอบตัวเล็กน้อยๆก็เป็นไอเดียได้
10.หาแรงบันดาลใจอยู่เสมอๆ
11.เลี้ยงสัตว์แล้วรักมันให้เหมือนคนในครอบครัวของคุณ

.......... 11 วิธีนี้คือวิธีที่ง่ายและผมชอบทำมากที่สุดในชีวิตประจำวัน...........

คุณรู้มั้ยว่าจะระบบเทรดต้นแบบของผมก่อนที่จะพัฒนามาจุนถึงปัจจุบันได้ไอเดียมาจากสิ่งรอบๆตัวหมด ไม่ว่าจะเป็นการเดินของหมา, คลื่นในทะเลตอนไปเที่ยว, ดูหนัง ดูการ์ตูน, รวมไปถึงการอ่านหนังสือ.
ระบบเทรดรุ่นแรกสุดของผมมีชื่อว่า The Prison of behavior นั้นได้ไอเดียมากจากตอนที่ผมกำลังมึนๆกับการหาระบบเทรดในตลาด Forex ก็ไปเดินเล่นหน้าบ้านเจอหมาเดินเข้ากรงแล้วก็เดินออก จังหวะนั้นเองมันทำให้ผมคิดได้ว่า ถ้าเราจับทางตลาดไม่ได้ก็เอากรงมาขังมันไว้ไม่ว่าจะไปทางไหนก็จะหามันเจอ (อันนี้เป็นแนวคิดเริ่มต้นนะครับ) หลังจากนั้นก็มานั่งเขียนๆ ลองทำดูสรุปก็ใช้ได้แต่ยังขาดปัจจัยไปอีกเยอะที่จะเอาชนะตลาดได้....แต่ต้องขอบคุณหมาของผมครับที่มันเดินเข้ากรงเลยทำให้ผมคิดระบบเทรดได้ 55555 

และในเวลาต่อมาหลังจากนั้นประมาน 1 ปีผ่านไปน่าจะได้...ผมไปเดินเล่นที่ร้านหนังสือ B2S ที่เซ็นทรัล ชิดลม ก็ไปยืนอ่านหนังสือชื่อ " Quantum Trading "

 สิ่งที่ผมแปลกใจหลังจากยืนอ่านไปประมาน 15 หน้าคือระบบความคิดบางอย่างในการวิเคราะห์ตลาดในเชิงปริมานมันเหมือนกับระบบที่ผมคิดได้จากการเดินเข้ากรงของหมาที่บ้าน คือมันเหมือนจนน่าตกใจ จะเพราะความบังเอิญหรืออะไรไม่รู้ ทั้งๆที่ตัวผมนั้นได้ล้มเลิกที่จะพัฒนาระบบนั้นแล้วก็ตาม.....แต่สิ่งที่ผมต้องการจะสื่อคือในมุมมองของผมนั้น "ทุกสิ่งบนโลกนี้มันเชื่อมต่อกัน" ไม่ว่าจะเป็นไอเดียดีๆต่างๆมากมายที่มาจากสิ่งรอบตัว หรือการได้สนทนากับคนที่เป็น the best ในด้านนั้นๆ....คุณรู้หรือไม่ว่าการที่คุณมี connection ดีๆ แล้วได้พูดคุยสนทนาในเรื่องธุรกิจกัน 1 ชัวโมง มันดีกว่าคุณไปอ่านหนังสือ Business 10 เล่มซะอีก...แรงบันดาลใจก็มีรอบตัวครับคุณขับรถแล้วเจอเด็กหนุ่มจูงคนแก่ข้ามถนน คุณคิดถึงอะไรละ?... เด็กหนุ่มคนนั้นจับมือคนแก่ไว้แน่น ใบหน้าของคนแก่นั้นดูมีความสุขสุดๆ ตัวผมเองเห็นแค่นั้นมันทำให้คิดถึงคุณป้าของผมในตอนที่ท่านยังมีชีวิตอยู่ หรือแม่ของผมเมื่อแก่ตัวไปผมจะดูแลท่านได้แบบนี้มั้ย แค่นี้ก็ทำให้คุณยิ้มได้แล้วครับ(Think positive) จากนั้นมุมมองที่คุณมีต่อโลกของเราก็สวยงามขึ้น



-----บางครั้งเราไอเดียดีๆก็เกิดจากการเป็นผู้ให้ครับ (Give and take) อย่างที่ผมชอบพูดกับเพื่อนๆ Action = Reaction เสมอๆครับ...มันเป็นกฎของโลกนี้ ไม่เชื่อคุณลองทำอะไรเพื่อคนอื่นดูสิครับแล้วคุณจะรู้ว่าสิ่งที่คุณได้รับกลับนั้นมันมากมาย...แต่บางครั้ง reaction ก็ไม่ได้มาในทันทีนะครับ มันจะมาเมื่อถึงเวลาของมันเอง เวลาที่ใช่ คนที่ใช่ สถานที่ที่ใช่ มาในรูปแบบต่างๆครับ และบางครั้งมันมาพร้อมกับไอเดียที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณไปตลอดกาล.

มีคนเคยบอกผมว่าสัตว์เลี้ยงของเรา หมา แมว จะเป็นตัวปรับสมดุลพลังงานในร่างกายให้เราหลักๆที่ผมสัมผัสได้คือมันจะเปลี่ยนพลังงานลบทุกอย่างให้เป็นบวกครับถ้าเราใก้ลชิดมันมากพอ...สิ่งที่ผมชอบทำคือให้อาหารแมวและหมาจรจัด แต่เสียดายที่นำมันมาเลี้ยงไม่ได้ เพราะที่บ้านก็มีพอแล้ว แต่แมวของผมเป็นแมวจรจัดครับ ผมเก็บมันมาเลี้ยงตั้งแต่มันเด็กมากๆ 1-2 เดือน ทุกวันนี้อยู่กันมาจะ 4 ปีละครับ....สิ่งที่ผมได้รับกลับมาคือแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตครับ ผมเคยได้ยินคนพูดว่า "คุณไม่สามารถช่วยหมาทุกตัวบนโลกได้หรอกจะช่วยมันไปทำไม?" ...ผมเลยตอบกลับไปว่า "คุณรู้มั้ยถึงแม้ผมจะช่วยหมาทั้งโลกนี้ไม่ได้ แต่การที่ผมช่วยหมาตัวนี้ไว้มันเปลี่ยนโลกทั้งใบของมัน แค่นั้นก็พอแล้วกินอิ่มนอนหลับ"จะมีอะไรดีไปกว่านี้ :)

ขอสรุปง่ายๆว่า The Best Idea ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตคุณไปตลอดการคือการเริ่มที่จะรู้จักกับคำว่า "ให้" แล้วพอได้ไอเดียดีๆนั้นมาก็เอามาต่อยอดแล้วทำให้มันเป็นจริงครับ.


# Kanthorn #



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น