วันพุธที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 28 Super Sense by Topbeatbox

ขออภัยที่ช่วงนี้ไม่ค่อยได้มาโพสนะครับ ช่วงนี้ชีวิตเคร่งเครียด  แต่ผมจดทุกวันนะครับ แต่ไม่ได้เอามาลงครับ ช่วงนี้ต้องยอมรับว่า EURUSD ลงแรงซะใจจริงๆ คือผมติดไว้นานมากแล้ว ค่อยเก็บ CF เข้าพอรต์ เพื่อมาลดต้นทุน ในช่วงที่มันขึ้นนั้นเอาซะเสียวเลย แต่ก็เก็บ CF มาเรื่อยๆ การเก็บ CF ให้มีประสิทธิภาพนั้นคือ ลดต้นทุนให้ใกล้เคียงศูนย์มาที่สุดในแต่ละเดือน พยายามเช็คยอดแต่ละเดือนด้วยนะครับ เช่น EURUSD เดือนนี้ลดมา 6% พอรต์ของเราลดน้อยกว่า 6% ก็สำเร็จแล้วครับ ^^ จริงๆเอาอะไรมาวัดก็ได้ให้มันเป็นเสาหลัก เหมือนเป็นเป้าหมาย ช่วงก่อนหน้านั้นเก็บ CF หนักหน่วงมาก ลดต้นทุนจนกลายเป็นกำไรเฉยเลย ตอนสุดท้ายพอ EURUSD ลงเท่านั้นแหละ SNOWBALL let's profit run สนุกสนานเลยครับ



เชื่อไม๊ครับ เทรดเดอร์ที่อยู่ในตลาดมานานพอสมควรจะมี Super Sense แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะมีบ่อยเท่ากันนะครับ ไอ้เจ้า Super Sense นี้แหละตัวทำเงินเลย อันนี้ประสบมาเองกับตัว ในหนึ่งปีผมจะมี Super Sense 4 รอบ มันคือการเดาเทรนที่แม่นที่สุดเท่าที่เคยเดามา ด้วยประสบการณ์และเดจาวูหรืออะไรก็ตาม พอ Sense มันมามันจะแม่นมาก คือเป็นความรู้สึกว่าใช่อะ ตอบไม่ได้จริงๆแต่มันรู้อยู่ในสายเลือด ฮ่าๆ ผมเชื่อว่าทุกคนเคยประสบ Super Sense อยู่บ้าง หมายถึงรู้ว่ากลับเทรนใหญ่แน่ๆแล้ว แต่มันก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย ว่ามีความมั่นใจใน Sense ของตัวเองขนาดไหน ผมบอกได้เลยว่าไอ้เจ้า Sense แบบนี้มันไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ มันเกิดขึ้นปีละไม่กี่ครั้ง นับครั้งได้ แต่ละคนจะมีจุดมั่นใจไม่เหมือนกันแล้วแต่ประสบการณ์ที่เจอมา ผมเป็นคนดูกราฟเปล่าๆอยู่แล้ว ไม่มีการใส่สีสันใดๆทันสิ้น ดูแท่งเทียนกับอ่านข่าวอย่างเดียว ฝึก Sense ล้วนๆ ฮ่าๆ ถามว่ากลัวไม๊ว่า Sense จะผิด ใครๆก็กลัวแหละผิดทางแหละ แต่ถ้าเรามีการวางแผนการเงินที่ดี หรือ Money management ที่ดีก็ไม่ต้องกังวนไปครับ วางแผนดีๆเดาส่งเดจ ก็กำไรครับ แต่ผมก็ดูพวก ATR STO อยู่บ้าง กันเหนียวครับ

ฟังดูเหมือนซุปเปอร์ฮีโร่เลยเนอะครับ 555+


Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันพุธที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 27 Multi-Cashflow by Topbeatbox

วันก่อนผมนึกสงสัยเกี่ยวกับสินค้าบางตัวเช่น เลย์ ซึ่งแต่ก่อนเราอาจจะเคยเห็นยี่ห้ออื่นๆบ้างในอุตสาหกรรมนี้ เช่น เทสโต และอีกหลาย Product ที่พยายามมาเอา Market Share ซึ่งกลยุทธ์ที่เลย์ ทำคือการใช้ Line Extension Product Life Cycle ซึ่งมีขนมแบบเดียวแต่หลายรส ซึ่งประสบความสำเร้จมาก เช่นเดียวกับคุณตัน อิชิตันที่พยายามทำชาเขียวหลายๆรส แต่ผมก็อดสงสัยไม่ได้ว่านี้คือวิธีการเดียวสู่ความประสบความสำเร็จหรือไม่ จนผมคิดถึงคุณเจริญ เจ้าของเบียรช้าง ซึ่งเขาเล่นมาเอา Market Share ทุกตลาดที่เพิ่งเกิดใหม่ รวมถึงเก่า ดังนั้นเราจึงเห็นเครือนี้มี Brand Extension มากมาย ดังนั้นผมจึงคิดได้และนำมาเชื่อมกับการเทรด ซึ่งเป็นกลยุทธที่ใช้มาทำ Multi Cashflow โดยปกติคนเราจะเล่นตลาดใดตลาดเดียวและพยายาม Master ตลาดนั้นๆ แต่น้อยคนที่จะเล่นหลากหลายตลาด ไอเดียมันก็คล้ายการที่ผมเคยพูด Diversify Portfolio แต่ต่างกันที่เมื่อตลาดใดตลาดนึงอิ่มตัวเราจะสามารถเก็บ Cashflow ได้น้อย เราจึงต้องมีการเทรดอยู่หลากหลายตลาด เนื่องจากเราสามารถแชร์เงินทุนกันได้เพราะฉะนั้น การทำ Diversify Port ในตลาดที่แตกต่างจึงได้เปรียบเรื่อง Sustain และความต่อเนื่องของกำไรมากกว่าเล่นตลาดเดียว



ช่วงนี้ผมฟิตอยู่คนเดียวเลย อิอิ^^

Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 26 My New Products by Topbeatbox

วันก่อนที่ผมกำลังจะตัดสินใจเปิดโรงงานขนาดเล็กจริงๆแล้ว ซึ่งก่อนหน้านั้นผมผลิต Product สำเร็จแล้วเช่นกัน ก่อนจะเปิดก็นั่งคิดอยู่นานว่า เห้ย!!! มันจะไปรอดจริงๆหรอ ถ้าถามว่า Product ของผมดีไม๊ ผมก็ค่อนข้างมั่นใจว่า เจ๊งเป้งไปเลย แต่ก็มานั้นคิดชั่งใจอีกที่เมื่อผมได้รับข้อมูลอะไรบ้างอย่างจาก เว็บ พันธิป เขาพูดประมาณว่าหนี้ครัวเรือนตอนนี้สูงขึ้นมาซึ่งผลพวงเกิดจากการกระตุ้นการซื้อขายที่ผ่านมา ซึ่งผมไปเช็คมาก็เป็นความจริง และ นอกจากนี้ยังเกิดความขัดแย้งทางการเมือง ซึ่งทำให้ผมคิดว่า โอเค ในเมื่อสถานการณ์บ้านเมืองเราเป็นแบบนี้ ผมจึงได้หยุด Project เอาไว้ก่อน และพยายามพัฒนาสิ้นค้าตัวถัดไปเพื่อสินค้าชิ้นแรกไม่ประสบความสำเร็จ ผมนั่งคิดว่าเราควรจะทำมาหลายๆโปรดัก ที่สามารถใช้เครื่องจักรอันเดียวกันได้ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงที่สุด ตอนนี้ผมยังไม่ชัวรอะไรมาก เนื่องจากสถานการณ์ในประเทศ โปรเจ๊กนี้อาจเลื่อนไปซักเดือนสองเดือนดูตามสถานการณ์



วันนี้เป็น วันปิดยอดของเดือนนี้ ชอบจุงวันปิดยอดเนี่ย ^^ เดือนนี้ทำยอดได้น้อยเป็นพิเศษ ผมเพิ่งมาเข้าใจว่าการที่ผมปิดยอดได้น้อยช่วงหลังเป็นเพราะแผนการที่ผมวางไว้มันเป็นระบบ Cycle หรือ ธรรมชาติของระบบของผม ซึ่งระบบที่ผมคิดค้นเป็นระบบทำกำไรใน Long Term และนี้คือธรรมชาติของ Cycle การทำกำไรของพอรต์ผม และบวกกับความผันผวนในตลาดต่ำ


Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 25 Your Idea can Change the World by Topbeatbox

วันก่อนผมดูการ์ตูนที่เกี่ยวกับนักวิทยาศาสตร์ครั่ง ที่มีไอดอลเป็นนักวิทยาศาสตร์ชื่อดัง ได้ผลิตเครื่องผลิตอาหารโดยใช้แค่น้ำ และสุดท้ายอาหารกลับกลายมามีชีวิต แต่ผมชอบคำนึงมากเลย นักวิทยาศาสตร์ตัวร้ายพูดว่า Your Idea can change the world เขาเลยมีโครงการจ้างนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลก มาผลิตของโดยให้เริ่มคิดจากไอเดียเล็กๆ ผมก็มานั่งคิดถึงว่า เอ่อเนอะมันจริงของเขา ไอเดียสามารถเปลี่ยนโลกได้ ไอเดียของคนที่อยากเปลี่ยนโลกสู่ยุคสมาตโฟน ไอเดียของคนที่อยากบินได้ ไอเดียของคนที่อยากจะสามารถอยู่ในน้ำได้ ไอเดียของคนที่อยากออกนอกโลก ไอเดียของคนที่อยากจะมีปริ้นเตอร์ สิ่งพวกนี้ล้วนเกิดขึ้นจากไอเดียเล็กๆ ปนความฝันเบาๆ ไอเดียและความฝันช่างสำคัญต่อการพัฒนายิ่งนัก


Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 24 Hard Time by Topbeatbox

ในสมัยก่อนคนจีนอพยพมาจากประเทศจีน มาตัวเปล่า ในสมัยนั้น ประเทศไทยถือคติที่ว่า ในน้ำมีปลาในน้ำมีข้าว ไม่มีวันอดตาย ในสมัยนั้นคนไทยชอบทำงานราชการมียศฐานบรรดาศักดิ์ คนไทยไม่ชอบค้าขาย คนจีนเลยต้องมาทำ คนไทยเชื่อว่าคนค้าขายเป็นคนชั้นต่ำ คนจีนในไทยต้องอดทนอย่างมากจนกระทั้งยุคสมัยเปลี่ยนไป เมื่อยศฐานบรรดาศักดิ์ไม่สามารถใช้เลี้ยงปากท้องได้อีกแล้ว กว่าจะรู้ตัวคนจีนในไทย หรือคนไทยเชื้อสายจีนแทบจะครองการค้าขายไปซะส่วนใหญ่ไปเสียแล้ว นอกจากนั้นพวกเขายังโครตขี้เหนียว คิดทุกบาททุกสตางค์จริงๆ


เช่นเดียวกับคนยิวที่แต่ก่อนต้องอพยพไปเรื่อยๆ เป็นทาสเขาบ้างหละ โดนกดขี่อย่างหนัก โดนไล่ฆ่าหนีหัวซุกหัวซุนต้องพยายามเอาชีวิตให้รอด คนพวกนี้จึงมีภูมิต้านทานในการอยู่รอดสูง พวกเขาเป็นชนชาติที่ฉลาดมากๆในการค้าขายด้วยเช่นเดียวกัน
สิ่งพวกนี้แสดงให้เห็นว่าคนที่กล้าเผชิญสิ่งใหม่ๆ จะเจอโอกาสหลายๆอย่างแต่อาจจะต้องแลกด้วยความลำบากสุดขาดใจ คนพวกนี้เก่งมาก เพราะแค่ตัดสินใจที่จะอพยพก็ถือว่าเป็นการกระทำที่เสี่ยงพอสมควร กล้าได้กล้าเสีย กล้าลุยกับปัญหา แต่สมัยนี้สิ่งอำนวยความสะดวกมันเยอะซะเหลือเกินจนไม่รู้จะไปหาความลำบากมาเป็นบทเรียนได้อย่างไร แต่นั้นแหละคือสิ่งที่ลำบาก ยิ่งมีของล่อตาล่อใจเยอะ การหักห้ามใจนี้แหละทำได้ลำบากมากมาย 
น่าลองคิดว่าสมัยก่อนคนที่ไม่มีอะไรมาก่อนมี หอบเสื่อหมอนใบ มาตัวเปล่า แต่ด้วยความขยันอดทน กล้าได้กล้าเสีย ทำให้ทุกวันนี้มีกิน ไม่อดไม่อยาก สมัยนี้ถ้ามีแค่ เสื่อหมอนใบจะทำได้แบบนั้นหรือป่าว ส่วนตัวเชื่อว่าทำได้ คนเราถ้าขยัน อดทน อดออม รู้จักใช้เงินให้งอกเงย ไม่มีวันอดตาย 


Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 23 Condition by Topbeatbox

วันนี้ผมได้อ่านบทความของรุ่นพี่คนนึงได้อ่านเกี่ยวกับเรื่อง Trading Senerio ไอ้ตอนแรกผมก็ไม่แน่ใจว่าคืออะไรเหมือนกันครับ ตอนหลังพี่เขายกตัวอย่างเลยถึงบางอ้อ แต่ไม่ชัวรว่าถูกหรือป่าวครับ แต่ตรงนี้คือไอเดียที่ผมคิดต่อจากไอเดียพี่เขา ตลาดจะมีหลาย Condition ซึ่งผมเรียนทางด้านเศรษฐศาสตร์มา ผมจะเข้าใจว่าตลาดมีหลายตัวแปร และปัจจัยอื่นๆ ตรงนี้คือสิ่งที่ผมคือนะครับถ้ามองตาม Process ตอนแรกดู Situation and Condition of market > Possible Policies> Effect in each Policy and Behaviour of each Market > Expectation of Market > Risk/Reward due to Expectation in market. แค่นี้เราก็สามารถแตกแขนงเหมือนต้นไม้แล้วเราจึงสามารถ ลงมือทำตามแผนได้ทันที่โดย Base บนสถานการณ์ ถ้าถามว่าแล้วถ้าคนที่ไม่ดูปัจจัยพื้นฐานหละ ถ้าในความคิดตัวของผมเอง และประสบการณ์ที่เคยผ่านมา การใช้กราฟคู่กับการดูพื้นฐานเป็นอะไรที่เยี่ยมยอดมาก เพราะสำหรับผมการดูกราฟคือการดู Expectation หรือ Behaviour ของตลาด แต่การดูพื้นฐาน คือการดู Direction and Confirmation แล้วจึงไปขั้นตอน Analysis โดยผ่าน Trading Senerio



การทำ Trading Senerio ผมว่าควรจะต้องสังเกตุให้เก่งและใช้ระยะเวลาพอสมควร คือเราไม่สามารถทำมั่วๆได้ ดังนั้นถ้าอยากได้แผนที่โอเค ก็ต้องอดทนกันหน่อยนะจ๊ะ ^^

Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

Day 23 เหนื่อยแต่ไม่เคยท้อ By Kanthorn


ผมเชื่อว่ามนุษย์เราทุกคนต้องมีช่วงเหนื่อย...เหนื่อยในที่นี้หมายถึงอยากพักผ่อนจากงานที่ทำ เพราะเราทำงานหนักบางครั้งก็มีรู้สึกอยากพักสมองหาอะไรชิวๆทำ.

ผมก็เป็นหนึ่งคนที่ชอบการพักผ่อน เพราะผมจะมีช่วงทำงานหนักมากๆ เทรดแบบสุดๆ แล้วก็เรียนแบบสุดๆ...เวลาอยากพักก็ชอบขับรถไปนอนคอนโดที่หัวหินสัก 3-7 วัน ทำแบบนี้เป็นประจำทุกๆ 1-3 เดือน บางทีไปทุกเดือน...ที่ผมให้ความสำคัญกับการพักผ่อนเพราะมันเหมือนเป็นการเติมพลัง ไม่ว่าคุณจะบ้างานแค่ไหนถ้าไม่พักเลย สุขภาพร่างกายก็ไม่ไหว สมองไม่ทำงาน ไม่สร้างสรรค์ ไม่เกิดแรงบันดาลใจ....ถ้าช่วงไหนไม่ได้ไปพักผ่อนต่างจังหวัดก็จะอยู่ในกรุงเทพฯเนี่ยละไม่ได้ไปไหน บางทีอยู่บ้านนั่งอ่านหนังสือ กิน นอน จิบชา จิบกาแฟ ....ผมชอบเล่นหมากรุก แต่พักหลังไม่มีเพื่อนเล่นด้วยสงสัยจะเบื่อกันหมด พี่ท๊อปก็ไม่ยอมมาเล่นกันเลย ฮ่าๆๆๆ ....แต่สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือการออกไปนั่งจิบกาแฟตอนบ่ายๆมีแสงแดดอ่อนๆส่องลงพื้น ผมจะนั่งข้างนอกสัมผัสลมเย็นกับแดดอุ่นๆ นั่งมองท้องฟ้า มองแสงแดดบางทีมันทำให้รู้ว่า " ไม่มีอารมณ์และความรู้สึกใดอยู่กับตัวเราตลอดเวลา " บางคนบอกเศร้า บางคนบอกเครียด ผ่านไปแปปๆก็ลืม จากนั้นก็กลับมาเศร้าอีกเครียดอีก ที่เป็นแบบนั้นเพราะเราเป็นคนเชื่อมต่ออารมณ์เหล่านั้นขึ้นมาเองใหม่ งงมั้ยครับ ฮ่าๆๆ

คือที่ผมจะสื่อคือคนเราอะชอบเอาอารมณ์ต่างๆมาสร้างเป็นรูปร่าง หรือเชื่อมต่อสร้าง value มันขึ้นมาเอง....เช่น ตอนนี้คุณมีความสุขมาก ผ่านไป 10 นาทีอาจจะเริ่มรู้สึกเฉยๆละ จากนั้นมานึกเรื่องที่ทำให้มีความสุขได้อีกก็สุขอีก......สรุปคือไม่มีอะไรอยู่คงที่ตลอดเวลาครับ ทุกสิ่งนั้นเราล้วนแต่เป็นคนปรุงแต่งมันขึ้นมาเอง....ผมเห็นบางคนแม่งเศร้า ทำเครียดอยู่ตลอดก็เพราะมันสร้างสภาพตัวมันให้เป็นแบบนั้น บางคนมันท้อแท้ก็เพราะมันทำตัวมันให้เป็นแบบนั้น.

ถ้าพูดถึงมนุษย์เรานั้นเรื่องของการทำงานของสมองซีกขวานั้นเป็นเรื่องที่อยู่เหนือการควบคุมนะในบางที เพราะมันคือ Emotion ของตัวเรา....แต่ถ้าเรารู้จักควบคุมมันละจะดีแค่ไหน....บางทีเราท้อแท้เราเหนื่อย รู้สึกได้แปปๆก็พอ จากนั้นคุณต้องลืมมันทิ้งไปให้หมด แล้วเริ่มเชื่อมต่อการทำงานของความสุข เชื่อมต่อแรงบันดาลใจให้เราสู้ แค่นั้นเองชีวิตก็มีความสุขได้...มันอยู่ที่ตัวเรา..

ถ้ามีใครมาบอกผมว่ามีความสุขตลอดเวลา เป็นคนที่มีแต่คนรักไม่มีคนเกลียด ผมว่าแม่งขี้โม้นะ...ไม่มีใครบนโลกนี้หรอกที่จะไม่เคยรู้สึก กลัว เครียด เศร้า เหงา ท้อแท้ แต่คนที่ดูมีความสุขตลอดเวลาทั้งจากภายในและภายนอกนั้น มันก็เพราะว่าเค้าคนนั้นรู้จักเชื่อมต่อความสุขในตัวของพวกเค้าเอง.

----ช่วงนี้ผมรู้สึกเหนื่อยๆครับ ไม่อยากทำอะไรเลย อยากอ่านหนังสือชิวๆ นั่งจิบกาแฟยามบ่ายพร้อมแสงแดดอุ่นๆ ขี้เกลียดเขียน Blog มาก เพราะต้องคอยเขียนบันทึกการเทรดของผมเองทั้งหมด 4 blog ทั้งตลาดเมืองนอก และ TFEX เอาไว้ย้อนกลับมาอ่านเองตอนสินเดือนทุกๆเดือน ผมจะบันทึกทุกครั้งที่เทรด บันทึกอย่างระเอียด ว่ารู้สึกยังไงมองแบบไหน...แต่จะมีอันนี้ที่เขียนรวมกับเพื่อนๆแชร์มุมมองความรู้ต่างๆ.....ช่วงนี้ก็เป็นช่วงสอบ Final ที่มหาลัยแล้วครับเลยตามเคลียงานเยอะมากๆๆๆ เดี๋ยวต้องอ่านหนังสือสอบอีก....เลยทำให้รู้สึกเหนื่อยๆ แต่ก็จะแอบไปพักผ่อนครับ และก็จะไม่ลืมหน้าที่ที่จะต้องมาเขียน blog บันทึก......ตอนนี้ผมกำลังอ่านหนังสือ " The Hedge Fund Book " อยู่จะพยายามตั้งใจอ่านเอามาแชร์ในนี้ให้ได้ และผมก็ประกาศไว้เลยว่าจะไม่เขียนอะไรอย่างอื่นลงใน blog นี้เลยจนกว่าผมจะแปลแล้วทำมาสรุปให้ใน blog นี้จนเสร็จ.....จะพยายามทำเป็นตอนๆ เป็นไปได้อาจจะลง 1 article/week เพราะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ และศึกษาเพิ่มเติมไม่อยากเอามาเขียนมั่วๆ กลัวจะมีแต่น้ำไม่มีเนื้อ....ดังนั้นช่วงนี้ผมจะหายไปจะเหลือแค่ 1 บทความต่ออาทิตย์ ถ้ามันยากมากก็ไม่เกิน 2 อาทิตย์ หรืออาจจะมีทีหนึ่ง 2 บทความเลยแล้วแต่อารมณ์ ----

***ที่ผมตั้งเป้าว่าจะสรุปหนังสือเล่มนี้อย่างเดียว แล้วจะไม่เขียนอะไรอย่างอื่นลงในนี้เลยก็เพราะว่ามันจะได้เป็นการกดดันตัวผมเองที่เห็นไอ้บ้า Topbeatbox แม่งเขียนทุกวันถ้าไม่ยอมแปลก็ไม่มีมาลงเดี๋ยวไม่เท่....และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความตอนต่อๆไปจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับท่านผู้อ่าน ***

ปล.ในหนังสือมันจะมี VDO ให้ดูประกอบเป็นตอนๆ อันนี้อาจจะลำบากหน่อยถ้าจะแชร์เดี๋ยวจะลองหาวิธีดูครับ.

"งานที่เรารักไม่ได้แปลว่าทำแล้วไม่เหนื่อย หรือไม่ได้แปลว่าทำแล้วสนุกตลอดวัน...มันอาจจะเป็นงานที่ทำแล้วหมดวันแล้วแทบจะหมดแรงก็ได้นะ แต่สำคัญคือคุณต้องถึก ทำแล้วแบบมันอิ่มเอมอะ....มองเห็นตัวเองในกระจกแล้วแบบวันนี้แม่งดีนะ....โคตรเหนื่อยเลย แต่มันดีอะ" -ใบพัด- 


วันพุธที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 22 Something Wrong by Topbeatbox

เมื่อวันก่อนผมได้อ่านกระทู้พันทิบ เกี่ยวกับผู้ชายที่ขายหมู BBQ  ซึ่งความคิดเขาดีมาก เขาเล่าว่าทุกครั้งที่ขายไม่ดี หรือ ขายของไม่ได้มันต้องมีอะไรผิดพลาดซักที่ ที่ทำให้ขายไม่ออกทั้งๆที่อาหารก็อร่อยดี แค่ความคิดที่ว่ามันต้องมีอะไรผิดพลาด ทำให้เขานั่งไปคิดถึงปัญหาที่ทำให้เขาขายไม่ออก แล้วเขาสามารถแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง ใช่แล้ว!!! การที่เราทำอะไรมาอย่างยาวนานแล้วยังไม่สำเร็จมันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ๆ เราจะรู้ถึงปัญหาได้ไม๊นี้คือคำถามที่ตอบได้ยากที่สุดคำถามนึง แล้วถ้ารู้ปัญหาเราจะทำได้ไม๊ นี้ก็อีกปัญหานึง 


วันก่อนผมกลับมาดูเรื่อง เถ้าแก่น้อยอีกครั้ง รู้สึกได้เลยว่าคนที่จะประสบผลสำเร็จจะต้องเจอความล้มเหลวมานับไม่ถ้วน แล้วเขาต้องพยายามมากกว่าคนทั่วไปหลายเท่า และเขากล้าที่จะเสี่ยงหลายๆอย่าง อย่างเช่นพ่อแม่บังคับให้เรียน แต่เสี่ยงที่จะไม่เรียนเพื่อไปทำงาน คือเขาเหมือนกับคนที่สามารถหลุดจากกรอบที่สังคมตีกรอบให้เขาได้ จะต้องเรียนจบอย่างนู้น มาช่วยที่บ้านอย่างนี้ กล้าที่จะลุยชีวิตด้วยตัวเอง ก็ไม่แปลกใจเลยที่คนประเภทนี้จะประสบผลสำเร็จ ^^ 


Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 21 Decision Making by Nutty

การตัดสินใจนั้นมีแทรกแซงอยู่ภายในทุกช่วงชีวิตของเรา โดยเราอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวเลยก็ได้ ซึ่งการตัดสินใจนั้นสามารถกระทบตัวเราได้ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็ก การเลือกนั้นสามารถเปลี่ยนชีวิตเราจากหน้ามือเป็นหลังตีนเลยก็ได้ หรือ สิ่งที่เราเลือกนั้นอาจจะทำให้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยก็เป็นได้ แต่เชื่อไหมทุกทางเลือกที่เราเลือก จะนำทางไปสู่เส้นทางใหม่ๆตลอดเวลา ลองนึกถึงต้นไม้ดู หากเราเลือกกิ่งที่ 1 ภายในกิ่งที่1 นั้นก็แตกออกเป็นอีกหลากหลายทางเลือกสำหรับเรา จากกิ่งที่1.1 ก็แตกออกไปอีกนับร้อยนับพัน เพราะฉะนั้นจากวันเกิดจนวันตายมนุษย์ก็ยังต้องตัดสินใจไปเรื่อยๆจนวันตาย สิ่งที่ influence กระบวนการตัดสินใจของเรามีอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นคือประสบการณ์และความรู้ กระทั่งนิสัยส่วนตัวก็มีส่วนเกี่ยวข้อง 

เร็วๆนี้เราจะต้องทำการตัดสินใจอีกหลายๆอย่างมากมายที่จะมีผลกระทบกับโปรเจคล่าสุดที่เราทำอยู่ ซึ่งถามว่ากลัวตัดสินใจผิดไหม ก็กลัวนะ แต่มันไม่มีคำตอบที่แน่นอนว่าเลือกแบบนี้จะถูก เลือกแบบนั้นผิด ไม่มีใครรู้ว่าอนาคตทางเลือกไหนดีที่สุด แต่ไม่เลือกก็ไม่ได้ ไม่งั้นคงอยู่ไม่ถึงอนาคตน่ะสิ โลกมันเปลี่ยนแปลงตลอด คำตอบที่ผิดวันนี้อาจจะถูกในอนาคตก็เป็นไปได้ เพราะฉะนั้นเราเลยคิดว่าเลือกทางที่เหมาะกับสถานการณ์มากที่สุดไปก่อน ถึงอย่างไร ถ้าคำตอบมันจะผิดในอนาคตจริงๆก็ขอให้มีโอกาสแก้ไขให้มันถูกและเหมาะกับสถานการณ์ในอนาคตดีที่สุด

วันนี้ตัดสินใจเต้นเพลงใน Wii ออกกำลังกายกับท้อปและซิทอัพต่อ เป็นการตัดสินใจที่ถูกจริงๆ เพราะเรารู้สึกว่าปัจจุบันพวกเราอ้วนและขี้เกียจมาก อิอิ


Day 21 Oppotunity in Normal day by Topbeatbox

บางทีโอกาสมันอาจจะมาให้เห็นในชีวิตประจำวัน จำได้ว่าช่วงที่ Microsoft ออก Surface รุ่นแรกมาทดลองที่เกาหลี ไม่แน่ใจว่าใช่เกาหลีหรือป่าว แต่ที่แน่ๆอยากได้มาก ตอนนั้นไม่มีตังค์ซื้อเงินทั้งหมดอยู่ในพอรต์ ถ้าคนที่ชอบคอมจะรู้ว่ารุ่นแรก spec คอมไม่ได้ดีอะไรมาก ถึงแม้จะเป็นรุ่นโปร แต่กระแสมาแรงมาก เพราะเขาเห็นปัญหาของ surfacr RT เขาบอกว่าจะแก้และใส่ spec ให้โหดขึ้นเยอะใน surface 2 เขาตั้งใจจะพัฒนาแบบกระโดดเลยที่เดียว แต่ตอนนั้น Surface2 ยังเป็นแค่ข่าวลือ แต่ด้วยความที่มั่นใจมากหรือลางสังหรกระซิบบอก บวกกับผมเชื่อมั่นในบริษัทนี้มาก ตอนนั้นผมเคาะซื้อยกแผง MSFT ที่ราคา 28 ดอลล่าห์ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ แต่ขายตอน 33 ดอลล่าห์ ไม่คิดว่าจะสำเร็จได้เพียงนี้ ตอนนี้ MSFT ราคาวิ่งไปที 40 ก่อนลงมาเหลือที่ 39 เหรียญ สำหรับตัวผม ผมคิดว่าตัวนี้น่าลงทุนมาก น่าทำ ALPHA ผมเข้าใจว่า จำพวก Technology มี Cycle ที่สั้น แต่มันก็ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทไหนทำเทคโนยีล้ำสมัยออกมาก่อนกันด้วย ถึงแม้วันนี้ economy จะล่มแต่ถ้านำหุ้นตัวนี้มาเทียบกับดัชนีถือว่าคุ้มค่านักที่จะเสี่ยง



ผมว่าในโลกนี้มีอะไรมหัศจรรณหลายอย่าง ถ้าเราสังเกตุดีๆมันอาจจะเป็นโอกาสสำหรับเราได้ เรื่องที่เล่าไป คนที่รู้เหมือนผมมีเป็นสิบล้านคน เพียงแต่ผมเป็นเทรดเดอร์อยู่แล้วผมจึงหยิบโอกาสนี้ได้ ผมเคยอ่านบทความนึง เขาเขียนถึงคนโชคดี แต่คนที่โชคดีเขามีลักษณะนิสัยที่ทำให้เขาโชคดีด้วย

"ริชาร์ด ไวส์แมน แห่งมหาวิทยาลัยฮาร์ตฟอร์ดเชียร์ในประเทศอังกฤษ ได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับโชคและพบว่า "คนที่โชคดี" จะมีคุณลักษณะบางประการร่วมกัน ซึ่งช่วยให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะโชคดีมากกว่าคนอื่น ๆ

ประการแรก คนที่โชคดีใช้ประโยชน์จากเหตุบังเอิญที่เกิดขึ้นกับชีวิตของตน โดยแทนที่จะปล่อยให้ชีวิตผ่านเลยไปเรื่อย ๆ พวกเขาจะใส่ใจกับทุกสิ่งที่เกิดขึ้นรอบตัว พวกเขาจึงสามารถดึงคุณค่าออกมาจากแต่ละเหตุการณ์ได้ดีกว่าคนอื่น ๆ

ประการที่สอง คนที่โชคดีจะเปิดรับโอกาสใหม่ ๆ และเต็มใจที่จะทดลองทำสิ่งต่าง ๆ ที่อยู่นอกเหนือประสบการณ์ของตัวเอง พวกเขามักจะอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาไม่คุ้นเคย เดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ที่แทบไม่รู้จัก และคบหาสมาคมกับคนที่แตกต่างจากตัวเอง

ประการที่สาม คุณคงไม่แปลกใจที่ได้รู้ว่า คนที่โชคดีจะเป็นคนที่ชอบเข้าสังคม พวกเขาชอบสบตาและยิ้มให้ผู้คน ส่งผลให้ได้พบกับความสัมพันธ์ที่ดีและยาวนานกว่าคนทั่วไป รวมทั้งได้รับโอกาสดี ๆ มากกว่าด้วย

ประการที่สี่ คนที่โชคดีมักจะมองโลกในแง่ดีและคาดหวังว่าจะมีเรื่องดี ๆ เกิดขึ้นกับตัวเอง ส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์ "คำทำนายที่กลายเป็นจริง" เพราะ ถึงแม้บางสิ่งจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่พวกเขาก็จะหาวิธีการดึงเอาผัลลัพธ์ดี ๆ ออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้ายได้อยู่ดี ทัศนคติของพวกเขาจะส่งผลต่อผู้คนรอบตัว และช่วยเปลี่ยนสถานการณ์ร้าย ๆ ให้กลายเป็นประสบการณ์ดี ๆ

โดยสรุปก็คือ ถ้าคุณเป็นคนช่างสังเกต เปิดใจกว้าง เป็นมิตรมและมองโลกในแง่ดี คุณจะเชื้อเชิญให้ความโชคดีเข้ามาในชีวิตได้มากขึ้น..."

Credit: หนังสือ "น่าจะรู้อย่างนี้ ตั้งแต่ตอนอายุ 20"


จาก Blog: www.investmentory.com"


ลองมาคิดแบบนี้ ก็คือคนทื่ Active มากกว่าคนอื่นมักจะได้เจอผ่านโอกาสหลายๆอย่างในชีวิตมากกว่าคนอื่น สู้ต่อไปทาเคชิ 555+ ขนาดแค่ผมพยายามจะหาคอมพิวเตอร์ใหม่ใช้ ก็สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ หรือ จริงๆแล้วโอกาสมันอยู่ใกล้กว่าที่เราคิด



Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

Day 20 Second Plan By Topbeatbox

คนเราผมเชื่อว่า คนเราต้องมีแผนสำรองถึงสามสี่แผน เนื่องจากแผนทุกแผนย่อมมีจุดบอดที่เราอาจจะเห็นหรือไม่เห็นก็ได้ เช่น เราวางแผนมาไว้แบบนี้ สมมุติ แผนที่วางเอาไว้เกิดพลาด แต่ถ้าเราทำการบ้านมาแล้ว แล้วมีแผนสำรองก็จะไม่เดือดร้อนมาก เพราะเราสามารถทำตามแผนได้ทันที


ถ้าเทียบกับการเทรด เราก็ควรมีแผนสำรองยามฉุกเฉิน เพราะเราจะรู้ข้อดีและข้อเสียของแผนเรา ในกรณีนี้คือการเทรดคนเดียว แต่ถ้าเราเทรดเป็นทีมเราจะมีคนเทรดเพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการที่เราเทรดพลาด นี้คือรายละเอียดย่อยๆ หรือ ถ้าเราวางแผนมาดีมากแล้วมันอยู่ในขอบเขตของเกมของเรา ก็อาจจะเทรดด้วยตัวคนเดียวได้ แต่ผมก็ไม่ค่อยแนะนำเนื่องจากเรายังคงมีความเป็นมนุษย์ มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง อาจจะทำให้เกิดการพลาดในที่สุด ถือซะว่าเป็นค่าเรียนรู้ แต่ค่าเรียนรู้พยายามอย่าจ่ายหมดพอรต์ เพราะยังไงทุนก็สำคัญมากอยู่ดี ความผิดพลาดเป็นเรื่องปกติแต่อย่าถึงขั้นหมดพอรต์เลยนะครับ 555+ 


นอกจากนั้น บางที่การผิดพลาดมักจะมาพร้อมๆกัน ทุกอย่างมันจะผิดไปหมด ให้ถึงว่าเป็นเรื่องปกติเพราะทุกคนต้องเจอ มันคือธรรมชาติของมนุษย์ อย่าไปคิดมากคิดว่าเป็นค่าครู 

Topbeatbox # ชิวดิว่าาา

วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

Day 19 ขโมย หรือ โอกาส By Kanthorn


เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา...ก่อนนอนตอนประมานตี 3 ผมก็ไปบังเอิญไปเห็นอะไรบางอย่างในหน้า News Feed  Facebook ของผมแล้วทำให้เกิดไอเดียใหม่ในการทำธุรกิจของผมขึ้นมาได้....อีกวันตื่นเช้ามามีนัดกินข้าวกับที่บ้านแฟนร้านอาหาร น้องเนย ซีฟู้ด ตรงข้างๆเซ็นทรัลพระราม 2 ....ผมก็ไปถึงก่อนเวลานัดประมาน 4 ชั่วโมง เลยไปนั่งกินข้าวเดินเล่นกับแฟนผมในเซ็นทรัลแล้วผมก็เล่าแผนการทั้งหมดที่ผมคิดให้แฟนฟังแล้วก็ชวนมาทำด้วยกัน เพราะตัวผมเองนั้นไม่ค่อยถนัดทางนี้เท่าไร....จะว่าไม่ถนัดก็ไม่เชิง เพราะที่บ้านผมทำธุรกิจประเภทนี้โดยตรง...ที่บ้านผมทำธุรกิจส่งออก Jewelry แต่ตัวผมไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้เลยถือว่าไม่ได้เข้าไปยุ่งเลยก็เป็นได้ ผมจะถนัดเรื่องตลาดการเงินมากกว่า ถ้าให้เข้าไปทำมันไม่ใช่แนว มันไม่มี passion แล้วจะไปทำได้ดีได้ยังไง...และไอเดียสิ่งที่ผมคิดได้นั้นมันค่อนข้างใหม่สำหรับที่บ้าน และถ้าทำได้จริงผมว่ามันท้าทายดีนะ มันค่อนข้างออกนอกกรอบไปนิดนึง...

ผมจะยังไม่ขอบอกว่าสิ่งที่ผมคิดได้มันคืออะไร แต่มันเกี่ยวกับธุรกิจประเภท Jewelry แน่นอน....ด้วยสิ่งที่ผมคิดได้ตอนนี้นั้นมันก็แค่แผนการที่พูดขึ้นมามีแต่น้ำไม่มีเนื้อ....การที่จะทำให้เป็นเนื้อได้นั้นผมต้องทำการหาข้อมูลหนักมาก ดูว่ามีคู่แข่งแค่ไหน และจะไปขโมยไอเดียจากไหนมาแล้วทำให้ดีกว่า....โชคดีมีแฟนช่วยทำก็คิดว่าน่าจะเหนื่อยน้อยลงหน่อย (ไม่ก็เหนื่อยเยอะกว่าเก่า ฮ่าๆๆ) ......ตอนนี้ก็กำลังรวบรวมข้อมูลทุกอย่างที่มีจากการหาด้วยตนเอง เพราะไม่แน่พรุ่งนี้ หรืออีก 2 วันก็อาจจะเข้าไปลองขอคำปรึกษาจากอาเจ็ก(นัดไว้ละแต่ไม่รู้จะว่างตอนไหน) แต่การที่ผมจะเข้าไปขอคำปรึกษาจากทางผู้ใหญ่ได้ผมต้องไม่เข้าไปมือเปล่า ผมต้องเข้าไปพร้อมกับข้อมูลที่ผมมี และจะเป็นข้อมูลกากๆจาก google ไม่ได้ เพราะผมเคยเห็นญาติผมโดนด่าอย่างหนัก เพราะดันโง่เอาข้อมูลจาก google แล้วปริ้นไปให้...อาเจ็กผมพูดว่า "กูไม่ได้โง่นะ! ถ้ามึงเอาข้อมูลโง่ๆจากใน google มาให้กูดูแค่นี้ กูให้ลูกน้องกูทำให้ก็ได้...แต่สิ่งที่กูต้องการจากมึงคือไอเดีย และประสบการณ์ตรงที่มึงมี" ....ทุกวันนี้ผมยังจำคำนั้นได้แม่นยำไม่เคยลืม..

เท่าที่ผมมองตอนนี้ผมได้เปรียบกว่าคู่แข่งคนอื่น เพราะผมมีต้นทุนที่ดีกว่า เพราะมีโรงงานทำเองได้ ดังนั้นต้นทุนผมจะถูกกว่ามาก....และที่สำคัญสิ่งที่ผมคิดได้ผมมองว่ามันใช้ต้นทุนน้อยอยู่แล้ว แต่การที่เราจะใช้ต้นทุนน้อยได้นั้นมันก็มาพร้อมกับ "ความคิดสร้างสรรค์ที่เยอะกว่ามาก" ความคิดสร้างสรรค์ตรงนี้ต้องเยอะกว่าคู่แข่งคนอื่นๆ....ก็คงคล้ายกับการเทรดนั้นละเราต้องบริหารทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด...เพื่อผลลัพธ์ที่สูงสุด.

เอาเป็นว่าถ้าทุกอย่างผ่านหมดไม่เกิน 6 เดือน - 1 ปี ผมจะตั้งธุรกิจตัวนี้สำเร็จแน่นอน โดนมีท่านแฟนเป็น CEO ฮ่าๆ....ก็อย่างที่ผมบอกว่าไอเดียใหม่นี้มันค่อนข้างท้าทายความสามารถของตัวผมเองพอสมควรว่าจะทำได้มั้ย....ถ้าทำได้มันก็น่าสนุกอยู่พอสมควร เพราะมันเป็นงานที่ยากมาก....ต้องมารอติดตามผลกันครับว่าผมจะทำได้มั้ย.

----ประเด็นวันนี้ที่ผมจะสื่อคือ คนที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่ก็เป็นขโมยกันทั้งนั้น แต่การขโมยเนี่ยเป็นการขโมยไอเดียกัน.......Bill Gates ไม่ใช่คนแรกที่สร้างคอมพิวเตอร์ของโลกใบนี้นะ...คนสร้างจริงๆตายไปนานแค่ไหนแล้วไม่มีใครรู้ แถมคนจำไม่ได้อีก...แต่ Bill Gates แค่มีความหลงใหลในสิ่งนี้ และได้นำเอาความรู้ที่ตนเองมีไปประยุกต์ใช้แล้วคิดว่าทุกๆบ้านต้องมีคอมพิวเตอร์ใช้...จากนั้น Bill ก็สร้างขึ้นมาให้ทุกคนได้ใช้กันจนถึงทุกวันนี้....ก็รวยไปดิ Mr. Gates ฮ่าๆๆๆ ....ไอ้นักคิดค้นจริงๆก็ตายไปแล้วเป็นแค่ Thinker ไม่ใช่ Doer ... Mr. Bill Gates นั่นใช้ความหลงใหลที่ตัวเองมี + หัวทางด้านธุรกิจ + Long term vision และลงมือทำ ---

"ผมไม่ใช่คนแรกที่คิดไอเดียนี้ได้...แต่ผมเชื่อว่าผมสามารถขโมยมาแล้วทำได้ดีกว่าคนแรกที่คิดมันได้"

ถ้าหากเอามาเปรียบกับการเทรด...Technical ที่พวกคุณใช้กันอยู่ทุกวันนี้ พวกคุณคิดค้นกันขึ้นมาเองหรอ? พวกคุณทุกคนล้วนไปขโมยกันมาทั้งนั้น...บางคนใช้ EMA ผมถามจริงๆว่าคุณเคยสนใจรู้รึเปล่าว่าใครคือบิดาของ EMA แล้วคนที่ใช้ Bollinger Bands เคยรู้มั้ยว่า John Bollinger เป็นคนสร้างมันขึ้นมาแล้วเคยรู้กันมั้ยว่าสตูรคำนวนมันคิดยังไง....ยังไงก็ตามขโมยไอเดียคนอื่นอะทำได้ครับ แต่ต้องไปทำให้แตกต่าง และสร้างสรรค์กว่า...ถ้าเอาแต่ขโมยมาแล้วทำแบบคนนั้นก็ไม่มีทางประสบความสำเร็จหรอกครับ เพราะคุณไม่ใช่เค้าคนนั้น หรือผู้สร้าง ดังนั้นไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็สู้คนที่พยายามทุกอย่างเองไม่ได้หรอกครับ! 

ปล.ผมก็เป็นผู้ใช้ Bollinger Bands คนหนึ่งเหมือนกัน..และผมก็มั่นใจว่าผมได้ขโมยเอาแนวคิดของ John Bollinger และ Kathy Lien มาปรับใช้อย่างสร้างสรรค์ให้เป็นแนวของผมเองเช่นเดียวกัน.